ลิเวอร์พูล หนีตาย โรม่า ผ่านเข้ารอบชิง ยูซีแอล เจอ มาดริด

ลิเวอร์พูล จองตั๋วผ่านเข้ารอบการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ หลังคว้าชัยจากจาก โรม่า ด้วยสกอร์รวม 7-6 ประตู  ถึงแม้ว่าการแข่งขันในนัดที่ 2 พวกเขาจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 4-2 ก็ตาม

การคว้าชัยในนัดแรกด้วยสกอร์ 5-2 ประตู ณ สนามแอนฟิลด์ ทำให้ ลิเวอร์พูล นั้นลงแข่งขันในนัดที่ 2 นี้ด้วยความไม่กดดันสักเท่าไร บวกกับพวกเขาเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากจังหวะของ ซาดิโอ มาเน่ ในนาทีที่ 9 แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่หลังจากนั้นได้ไม่นานพวกเขาก็ต้องเสียประตูจากจังหวะที่ เจมส์ ไมล์เนอร์ ซัดบอลเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 15 ทำให้พวกเขาถูกตีเสมอในที่สุด

ความหวังของ โรม่า นั้นเริ่มหลุดลอยออกไปอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาต้องมาเสียประตูในนาทีที่ 25 จากจังหวะของ จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม และถึงแม้ว่าจะได้ประตูจาก เอดิน เซโก้ ในนาทีที่ 52 และได้อีก 2 ประตูจาก ราดย่า ไนอิงโกลัน ในนาทีที่ 86 และ 90+3 ก็ไม่สามารถทำให้เจ้าบ้านผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ เป็นผลให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกตั้งแต่ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007

ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล มีสถิติสังหารประตูกว่า 130 ครั้งในฤดูกาลนี้จากการแข่งขันทุกรายการ นับเป็นสกอร์ที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งสถิติสังหารประตูสูงที่สุดของพวกเขานั้นอยู่ที่ทำประตู 138 ครั้ง ที่พวกเขากวาดถ้วยกว่า 2 รายการในปี 1985/86

จากสถิติการแข่งขันรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ไม่มีการแข่งขันคู่ไหนที่สามารถพลิกมาผ่านเข้ารอบหลังจากถูกนำก่อนถึง 5-2 ประตูในการแข่งขันนัดแรก

ความเห็นผู้เชี่ยวชาญฟุตบอล

แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ นับเป็นการแข่งขันที่สนุกที่สุดนัดนึงในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีรูปแบบเกมส์รุกที่ดีมาก แต่ทางด้านของ โรม่า ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาก็สามารถสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้หลายครั้งเช่นกัน

คราก เบลลามี่ ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล มีหลายทีมที่ยอดเยี่ยมกว่าพวกเขาที่ไม่สามารถมาถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ พวกเขามีเกมส์รุกที่ดุดันประดุจระเบิดแต่อย่างที่พวกเรารู้ดีว่าพวกเขายังมีปัญหาในเกมส์รับ